วันที่ 31 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ข้าวหอม ปภาวรินทร์ โพสต์อุทาหรณ์ชีวิตคู่ลงในกลุ่ม HerKid รวมพลคนเห่อลูก ว่า #เลือกคู่ผิดชีวิตเปลี่ยน ความเห็นแก่ตัวของผู้ชายคนหนึ่งทำให้ชีวิตพังแทบไม่เหลืออะไรติดตัว แต่ก็ยังดีที่เขายังทิ้งสิ่งที่มีค่าไว้ให้ คือ ลูกๆ ทั้ง 3 คน ซึ่งในเวลาต่อมาได้มีคนให้ความสนใจแชร์เรื่องราวดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก พร้อมกับชื่นชมผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่เลี้ยงลูก 3 คนด้วยตัวคนเดียว

ทั้งนี้ ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ได้ติดต่อไปยัง คุณแจน อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของโพสต์ เปิดใจว่า ก่อนหน้านี้ตนมีครอบครัวสมบูรณ์แบบ ได้แต่งงานและจดทะเบียนสมรส สร้างครอบครัวช่วยกันทำมาหากินกันที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ในทุกความสัมพันธ์ย่อมมีปัญหาเกิดขึ้น ตนกับสามีก็เป็นหนึ่งในนั้น เราเร่ิมมีปัญหาชีวิตคู่ จึงตกลงแยกกันอยู่แต่ไม่ได้หย่า ไปมาหากันบ้างเพื่อหวังว่าจะมีอะไรดีขึ้น

กระทั่งวันที่รู้ว่าตนตั้งท้องลูกแฝด สามีก็หายออกจากบ้านไป 3 เดือนเหมือนเขาไปมีคนอื่น ตนจึงตัดสินใจกลับบ้านเกิดที่ จ.อ่างทอง ต่อมาสามีได้ติดต่อมาคุยเรื่องลูกและได้ข้อสรุปประมาณว่า เราคงไม่ได้กลับมาอยู่กันเหมือนเดิม

จนวันที่ตนคลอดลูกนอนอยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 10 วัน เพราะลูกปอดไม่แข็งแรง และในวันสุดท้ายที่นอนโรงพยาบาล สามีได้ติดต่อมาขอหย่า ซึ่งตนก็ยอมหย่าให้ โดยมีการตกลงเรื่องค่าเลี้ยงดู แต่ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยได้อะไรตามที่ตกลง จึงคิดว่าพอแล้วและตัดสินใจว่าจะเลี้ยงลูกเอง ซึ่งเป็นจังหวะที่เพื่อนเปิดร้านอาหาร ในตลาดสามโมก ได้มาจ้างให้ตนมาช่วยงานที่ร้านและกินอยู่กับเขา ให้เลี้ยงลูกอยู่ในร้าน

"ยืนยันว่าจะเลี้ยงลูกเอง ไม่เคยคิดยกให้ใคร ถามว่าท้อไหม มันก็ท้อนะ เพราะเราคลอดเองก็ต้องมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอด กลางคืนก็ต้องเลี้ยงเอง มันก็ต้องมีความเครียดเกิดขึ้น แต่ถ้าเราไม่ทำ ใครจะมาทำให้เรา ลูกเป็นภาระของเราไม่ใช่ภาระของคนอื่น เราก็ต้องทนและต้องหาเงินมาเลี้ยงเขา ความรู้สึกคือมันจะเหนื่อยล้ามากกว่าเพราะนอนไม่เต็มที่ งานก็ยุ่ง โชคดีที่บางครั้งพี่สาวช่วยเลี้ยงบ้าง"

สำหรับการใช้ชีวิตแต่ละวัน ในตอนเช้าต้องพาลูกสาวคนโต อายุ 6 ขวบไปส่งที่โรงเรียนก่อน ส่วนลูกแฝดก็จะตื่นสายนิดนึง ทำให้มีเวลาลงมาเตรียมของสำหรับเปิดร้าน 8 โมง ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ บางครั้งเพื่อนก็จะช่วยเพราะเห็นว่าเรากับลูกไม่มีใคร แต่เราจะไปเป็นภาระเขาทั้งหมดก็ไม่ได้

"หลังจากเรื่องที่โพสต์ดังกล่าวกลายเป็นกระแสในโซเชียล ก็มีทั้งคนที่เข้ามาให้กำลังใจและคนที่มองว่า เราใช้ความน่าสงสารเพื่อเปิดรับบริจาค ขอยืนยันเลยว่า ไม่มีการเปิดรับบริจาคใดๆ ทั้งสิ้น

หากถามว่าตอนนี้ตนกับลูกลำบากไหม บอกเลยว่าลำบาก แต่ยังโชคดีที่คนรอบข้างคอยช่วยเหลือบ้าง บางครั้งรู้สึกเหนื่อยก็แค่ต้องการกำลังใจ และสาเหตุที่โพสต์ไปส่วนหนึ่งก็ต้องการเป็นกำลังใจใช้เรื่องของตนเองเป็นกำลังใจให้กับแม่เลี้ยงเดี่ยวคนอื่นๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้มีเจตนานอกเหนือกว่านั้นเลย".